ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าเขาจะติดต่อไปยังคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนืออีกครั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่การรื้อฟื้นการทูตระดับสูงกับเปียงยาง คำพูดของทรัมป์มีขึ้นระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Fox News โดยเขาอธิบายว่าคิมเป็น “คนฉลาด” และ “ไม่ใช่พวกคลั่งศาสนา” ซึ่งอาจสะท้อนว่าเขามองว่ามีช่องทางสำหรับการเจรจา ทรัมป์ยังกล่าวถึงการพบกับ บารัค โอบามาในปี 2016 โดยโอบามาเตือนว่าเกาหลีเหนือเป็น “ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด” และอ้างว่าเขาได้แก้ปัญหานี้แล้ว นอกจากนี้ เขายังเรียกเกาหลีเหนือว่าเป็น “มหาอำนาจนิวเคลียร์” และคาดว่าคิมจะ “พอใจ“ ที่เห็นเขากลับมาเป็นประธานาธิบดี ซึ่งสะท้อนถึงภัยคุกคามนิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้นของเกาหลีเหนือ และความตั้งใจของทรัมป์ที่จะเจรจากับเปียงยางอีกครั้ง
ตลอดการหาเสียงเลือกตั้ง ทรัมป์มักพูดถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวของเขากับคิม ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าเขาอาจพยายามเจรจาโดยตรงกับเกาหลีเหนืออีกครั้ง สิ่งนี้สะท้อนผ่านการแต่งตั้งบุคลากร เช่น วิลเลียม แฮร์ริสัน ซึ่งเคยมีบทบาทในการวางแผนประชุมสุดยอดกับคิมในสมัยแรก และริชาร์ด เกรเนลล์ ผู้แทนพิเศษที่มีหน้าที่ในประเด็นสำคัญระดับโลก รวมถึงเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่า หากรัฐบาลทรัมป์กลับมา อาจเลือกเจรจากับเปียงยางโดยไม่ผ่านเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่โซลเผชิญวิกฤติทางการเมืองจากการถูกถอดถอนของประธานาธิบดียุน ซอกยอล
ในอดีต ทรัมป์เคยพบกับคิมสามครั้ง ได้แก่ การประชุมสุดยอดที่สิงคโปร์ (มิถุนายน 2018), ฮานอย (กุมภาพันธ์ 2019) และการพบกันที่ปันมุนจอม (มิถุนายน 2019) อย่างไรก็ตาม การเจรจาระดับปฏิบัติการหยุดชะงักตั้งแต่เดือนตุลาคม 2019 ปัจจุบัน เกาหลีเหนืออาจไม่สนใจเจรจากับสหรัฐฯ เท่าเดิม เนื่องจากเปียงยางหันไปพึ่งรัสเซียในด้านอาหาร เชื้อเพลิง และความมั่นคง หลังจากให้การสนับสนุนทางทหารแก่รัสเซียในสงครามยูเครน ในช่วงที่ไบเดนเป็นประธานาธิบดี สหรัฐฯ มุ่งเน้นไปที่การป้องปรามร่วมกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นมากกว่าการเจรจากับเกาหลีเหนือ ซึ่งข้อเสนอการพูดคุยแบบ “ไม่มีเงื่อนไขล่วงหน้า” ของไบเดนถูกเปียงยางเพิกเฉย
Ref. http://bit.ly/4aVBVU3
ผู้เรียบเรียง จ.อ.นันทวัฒน์ หลวงยศ ตรวจสอบโดย ร.อ.ธนัทเมศร์ ธนสิทธิกุลพงศ์
Leave a comment